เมนู

2. ปุริสวิมานวัตถุ


มหารถวรรคที่ 5


1. มัณฑูกเทวปุตตวิมาน


ว่าด้วยมัณฑูกเทวปุตตวิมาน


พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามเทพบุตรองค์หนึ่งว่า
[51] ใครรุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ ด้วยยศ มีวรรณะ
งาม ทำทิศทุกทิศให้สว่างไสว กำลังไหว้เท้าของเรา.

เทพบุตรกราบทูลว่า
เมื่อชาติก่อน ข้าพระองค์เป็นกบอยู่ในน้ำ
มีน้ำเป็นถิ่นที่หากิน กำลังฟังธรรมของพระองค์อยู่
คนเลี้ยงโคก็ฆ่าเสีย ขอพระองค์โปรดดูฤทธิ์และยศ
ดูอานุภาพ วรรณะ และความรุ่งเรืองของความ
เลื่อนใสแห่งจิตเพียงครู่เดียว ของข้าพระองค์ ข้า-
แต่ท่านพระโคดม ชนเหล่าใดได้ฟังธรรมของพระ-
องค์ตลอดกาลยาวนาน ชนเหล่านั้นก็ถึงฐานะที่ไม่
หวั่นไหว ซึ่งคนไปแล้วไม่เศร้าโศกเลย.

จบมัณฑูกเทวปุตตวิมาน

ปุริสวิมานวัตถุ


มหารถวรรคที่ 5


อรรถกถามัณฑูกเทวปุตตวิมาน


มัณฑูกเทวปุตตวิมาน มีคาถาว่า โก เม วนฺทติ ปาทานิ เป็นต้น.
มัณฑกเทวปุตตวิมานเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ริมฝั่งสระโบกขรณี ชื่อ คัคครา
นครจัมปา เวลาใกล้รุ่ง พระองค์ทรงเข้ามหากรุณาสมาบัติอันเป็นพุทธา-
จิณวัตร ทรงออกจากสมาบัตินั้น แล้วทรงตรวจดูเหล่าสัตว์พวกที่เป็น
เวไนยพอจะแนะนำได้ ทรงเห็นว่า เวลาเย็นวันนี้ เมื่อเรากำลังแสดงธรรม
กบตัวหนึ่งถือนิมิตในเสียงของเรา จักตายด้วยความพยายามของผู้อื่นแล้ว
บังเกิดในเทวโลก มาให้มหาชนเห็นพร้อมด้วยเทพบริวารเป็นอันมาก
คนเป็นจำนวนมากจักได้ตรัสรู้ธรรมในที่นั้น ครั้นทรงเห็นแล้ว เวลาเช้า
ทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังจัมปานครพร้อม
ด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ ทรงทำให้ภิกษุทั้งหลายหาบิณฑบาตได้ง่าย เสวยภัตกิจ
เสร็จแล้วเสด็จเข้าพระวิหาร เมื่อภิกษุทั้งหลายทำวัตรปฏิบัติแล้วไปที่พัก
กลางวันของตน ๆ ก็เสด็จเข้าพระคันธกุฎี ทรงใช้เวลาครั้งวันให้หมด
ไปด้วยสุขในผลสมาบัติ เวลาเย็นเมื่อบริษัททั้ง 4 ประชุมกัน เสด็จออก
จากพระคันธกุฎีอันหอมตลบ เสด็จเข้ามณฑปศาลาประโยคชุมธรรม
ริมฝั่งสระโบกขรณี ด้วยพระปาฏิหาริย์ซึ่งเหมาะแก่ขณะนั้น ประทับนั่ง